อาหารสุขภาพ ไข่เจียวพริกไทยดำ ช่วยรักษาโรคกระเพาะและลำไส้หลายคนชอบรับประทานไข่ไก่ เพราะเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ตั้งแต่เมนูง่ายๆ อย่างไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม ไข่ลวก ไข่ตุ๋น ไปจนถึงเมนูที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนอย่างไข่ลูกเขย ไข่พะโล้ และไข่ไก่ ยังให้สารอาหารที่มากมายต่อร่างกายของเรา โดยเฉพาะโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งโปรตีนที่มีประสิทธิภาพในการดูดซึมทำให้ร่างกายนำไปใช้งานได้ง่าย โดยมีส่วนประกอบของวิตามินเอ ดี อี เค บี 2 บี 12 โฟเลต และแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะ ฟอสฟอรัส และเหล็กที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างเม็ดเลือดได้มากขึ้นด้วย
ดังนั้น ไข่ไก่ จึงเป็นอาหารที่ย่อยง่ายจึงมีความนิยมนำไปปรุงเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยและ ยังมีส่วนประกอบสำคัญอีกอย่าง คือ เลซิธิน ที่มีอยู่ในไข่แดง มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ช่วยบำรุง ฟื้นฟูความสดใสให้กับสมองได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไข่ไก่จะช่วยคลายความเครียด บรรเทาความเมื่อยล้า และฟื้นฟูกำลังได้เป็นอย่างดี เห็นมั้ยว่า ไข่ไก่นั้น นอกจากจะเป็นวัตถุดิบที่คุณค่าทางสารอาหารที่สูงแล้ว ยังเป็นวัตถุที่สามารถนำมาทำเป็นเมนูเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย เพียงแค่นำไปประยุกต์หรือผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นๆ ก็จะทำให้เพิ่มคุณค่าทางสารอาหารได้
สำหรับวันนี้จะมาแนะนำเมนูไข่เจียวที่สามารถทำได้ง่ายและนำมาผสมกับพริกไทยดำ เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์และสารอาหาร เมนูเพื่อสุขภาพนั้นมีชื่อว่า ไข่เจียวพริกไทยดำ โดยพริกไทยดำนั้นก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย สำหรับสารอาหารในพริกไทย มีโปรตีน 11 % คาร์โบไฮเดรต 65 % แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน และวิตามินซี เราลองมาดูส่วนผสมและวิธีการทำกันดีกว่า โดยส่วนผสมในเมนูนี้คือ ไข่ไก่ น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าว เกลือ ซอสปรุงรส พริกไทยดำ โดยมีวิธีการทำเริ่มจากเตรียมกะทะใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันมะกอก หรือ น้ำมันรำข้าว จากนั้นก็ตอกไข่ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส เกลือเล็กน้อยและพริกไทยดำตามลำดับ ตีไข่ให้ส่วนผสมเข้ากัน และเทไข่ลงทอดในน้ำมัน ทอดจนสุก ตักใส่จาน พร้อมรับประทาน เราก็จะได้เมนูไข่เจียวพริกไทนดำที่มีคุณค่าทางสารอาหาร ทั้งยังได้โปรตีนที่มีคุณภาพสูง และในพริกไทยดำ ก็มีประโยชน์มากมาย ช่วยรักษาโรคกระเพาะและลำไส้ ทางตำราจีนจะใช้พริกไทยดำในการรักษาโรคท้องเดินจากอหิวาต์ โรคมาลาเรีย และแก้ไข้ ส่วนน้ำมันในพริกไทยดำ (สารพิเพอรีน) ก็นำมาเจือจางกับน้ำ เอามาสูดดม หรือทาถูผิวหนัง เพื่อลดอาการไข้ หนาวสั่น ทำให้หายใจโล่งขึ้น และฆ่าเชื้อโรคได้ดี สามารถนำมาผสมกับน้ำมัน แล้วนวดบริเวณที่ปวดกล้ามเนื้อ นอกจากนี้กลิ่นของพริกไทยยังเข้าไปกระตุ้นสมองให้รู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอ ส่วนในตำราไทยจะนำพริกไทยดำมาทำเป็นสมุนไพรเพื่อแก้อาการจุกเสียด แน่นเฟ้อ จากอาหารไม่ย่อย และแก้อาการอ่อนเพลียนั่นเอง
นอกจากนี้ ในพริกไทยดำ ยังมีแคลเซียมปริมาณสูงมากโดยเฉพาะในพริกไทยอ่อน แคลเซียมเป็นส่วนสำคัญในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ รวมทั้งยังสามารถป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุนได้อีกด้วย ในพริกไทยมีฟอสฟอรัสและวิตามินซีที่ช่วยในการชะลอการเสื่อมของเซลล์และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยในการมองเห็น และพริกไทยดำ ยังสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้านพิษต่างๆ ช่วยทำให้เจริญอาหาร แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยในการย่อยอาหาร รักษาโรคกระเพาะ ใช้เป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการปวด ลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก ช่วยกระตุ้นกำหนัด ขับเหงื่อ ลดไข้ และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท
อย่างไรก็ตามเราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทางเรายังเน้นย้ำให้ทุกคนรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย และควรที่จะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้เราได้มีร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บได้ อีกหนึ่งปัจจัยที่เรามีสุขภาพที่ดี ก็คือการที่เรารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน