หลายคนคงทราบกันดีว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ การออกกำลังกายอาจทำให้ทั้งผู้ป่วยและคนใกล้ชิดรู้สึกเป็นกังวลถึงความปลอดภัยของสุขภาพหัวใจ ในความเป็นจริงแล้ว มีงานศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้ป่วยโรคหัวใจเช่นกัน เพราะอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตและการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Heart Attack) รวมถึงยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้การออกกำลังกายจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคหัวใจ แต่การออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสมอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจขั้นรุนแรง ดังนั้น ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องการออกกำลังกายควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจความพร้อมของร่างกายก่อน เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด ความดันโลหิต และอัตราการหายใจ เป็นต้น
ผู้ป่วยโรคหัวใจควรออกกำลังกายแบบไหน
เนื่องจากโรคหัวใจเป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ผู้ป่วยจึงควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหักโหม โดยในเบื้องต้นอาจเลือกออกกำลังกายด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. โยคะหรือไท้เก๊ก
การออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะหรือรำไท้เก๊ก เป็นการออกกำลังกายโดยการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้า ๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ช่วยให้ร่างกายทรงตัวได้ดีขึ้น และช่วยลดความเครียด รวมถึงยังมีงานศึกษาบางชิ้นพบว่า การเล่นโยคะอาจช่วยลดระดับไขมันในเลือด อย่างคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ และยังอาจช่วยควบคุมความดันโลหิตอีกด้วย
2. แอโรบิคหรือคาร์ดิโอ
วิธีการออกกำลังกายแบบแอโรบิคหรือคาร์ดิโอ อย่างการเดิน การว่ายน้ำ วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือขับจักรยาน เป็นการออกกำลังกายที่เน้นสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดความดันโลหิต หรือช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น โดยในช่วงแรกควรเริ่มจากการออกกำลังกายอย่างเบา ๆ ไม่หักโหมจนเกินไป จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มระดับความหนักของการออกกำลังกายตามความเหมาะสมของร่างกาย
3. เวทเทรนนิ่ง
เวทเทรนนิ่งเป็นการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อที่อาศัยการใช้น้ำหนักให้เกิดแรงต้าน เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและกระดูก ช่วยเรื่องการทรงตัว รวมถึงช่วยควบคุมน้ำหนักของผู้ป่วยเนื่องจากกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ออกกำลังกายด้วยการเวทเทรนนิ่งไม่ควรใช้น้ำหนักเกิน 10 กิโลกรัม โดยเริ่มจากการใช้น้ำหนักน้อย ๆ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหม และที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวาย (Heart Failure) ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease) มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
นอกจากนี้ ความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยระยะเวลาการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจควรอยู่ที่ประมาณอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือประมาณวันละ 20–30 นาที และก่อนเริ่มการออกกำลังกาย ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจขั้นรุนแรงหรือมีประวัติการผ่าตัดหัวใจมาไม่นาน ซึ่งแพทย์จะตรวจร่างกายและให้คำแนะนำในการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละคน
ผู้ป่วยโรคหัวใจ ออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/