ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไฟลามทุ่ง (Erysipelas)  (อ่าน 11 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1205
    • ดูรายละเอียด
โรคไฟลามทุ่ง (Erysipelas)
« เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2025, 22:47:28 น. »
โรคไฟลามทุ่ง (Erysipelas)

โรคไฟลามทุ่ง (Erysipelas) คือ โรคทางผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรงในชั้นหนังแท้ (Dermis) ส่วนที่อยู่ตื้น ๆ และท่อน้ำเหลืองใกล้เคียง ซึ่งก่อให้เกิดผื่นแดง อักเสบบวมแดงตามผิวหนัง อาการมักลุกลามอย่างรวดเร็วคล้ายไฟลามทุ่งจึงเป็นที่มาของชื่อโรค และยังจัดเป็นประเภทหนึ่งของโรคเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis) แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า

อาการของโรคไฟลามทุ่ง

ผิวหนังบริเวณที่เกิดการติดเชื้อจะอักเสบ เป็นผื่นหรือปื้นแดง มีขอบนูนแยกออกจากผิวหนังปกติอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลาที่สัมผัสโดนผิวหนังบริเวณนั้นจะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด บวมแดง และแสบร้อน ผิวหนังจะมีลักษณะคล้ายผิวเปลือกส้มหรืออาจมีเลือดออกใต้ผิวหนัง ทำให้เป็นรอยจ้ำเขียว

การอักเสบของผิวหนังมักเกิดขึ้นตามแขนขาท่อนล่าง แต่บางรายก็พบผื่นแดงบริเวณใบหน้า ซึ่งมักจะลามออกไปทั่วแก้มและจมูกอย่างรวดเร็ว หรือพบว่าผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นเส้นสีแดง เนื่องจากมีการอักเสบของท่อน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียง ผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดแผลพุผอง มีน้ำหนอง หรือเนื้อเยื่อตายบางส่วน นอกจากนี้ ยังพบอาการอื่น ๆ ในระหว่างที่เกิดการอักเสบของผิวหนัง เช่น มีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกไม่สบายตัว หนาวสั่น

สาเหตุของโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เบตา เฮโมไลติก สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A Beta-Hemolytic Streptococcus) ซึ่งโดยปกติแบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่บริเวณผิวหนังของคนเราและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่เมื่อผิวหนังได้รับความเสียหาย เช่น เกิดบาดแผลหรือรอยแตกที่ผิวหนัง รอยแมลงกัด โรคผิวหนังที่ส่งผลให้เกิดรอยแยกบนผิวหนังอย่างโรคน้ำกัดเท้า โรคสะเก็ดเงิน หรือผื่นผิวหนังอักเสบ แผลพุพอง จึงทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายและก่อให้เกิดการติดเชื้อตามมา

อย่างไรก็ตาม ในบางรายอาจได้รับเชื้อหรือติดเชื้อจากทางอื่นเข้าสู่ร่างกาย เช่น ได้รับเชื้อผ่านทางระบบทางเดินหายใจจากการติดเชื้อที่จมูกหรือลำคอ เชื้อเข้าสู่บาดแผลในขณะการผ่าตัด แมลงกัด อาการขาบวมที่เป็นผลมาจากภาวะหัวใจล้มเหลว โรคเบาหวาน หรือปัญหาด้านสุขภาพอื่น ๆ การฉีดสารเสพติดอย่างเฮโรอีนเข้าสู่ร่างกาย

นอกจากนี้ บุคคลบางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้ง่ายหรือมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป ได้แก่

    ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะเด็กอายุ 2-6 ปี และผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป)
    ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
    ผู้ที่ใช้ยาซึ่งมีฤทธิ์กดระบบภูมิต้านทานของร่างกาย เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) รวมทั้งยาสำหรับผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
    ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (Peripheral Arterial Disease: PAD) โรคหลอดเลือดดําตีบและอักเสบ

การวินิจฉัยโรคไฟลามทุ่ง

โดยทั่วไปแพทย์จะวินิจฉัยโรคได้ทันทีจากการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะอาการผิดปกติที่พบตามผิวหนัง เช่น ลักษณะผื่น อาการบวมแดง หรืออาการแสบร้อน ควบคู่กับประวัติทางการแพทย์และประวัติการบาดเจ็บ ซึ่งอาจทำให้ทราบสาเหตุการติดเชื้อ

เนื่องจากการติดเชื้ออาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ในบางรายเมื่อแพทย์คาดว่าติดเชื้อโรคชนิดอื่น  อาจต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น

    นำตัวอย่างของเหลวจากแผลหรือเชื้อโรคจากบริเวณผิวหนังไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
    การตรวจสารเคมีและองค์ประกอบในเลือด เช่น การนับจำนวนเม็ดเลือดขาว การตรวจหาระดับ C-Reactive Protein: CRP ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างขึ้นเมื่อร่างกายเกิดการอักเสบ การเพาะเชื้อจากเลือด (Blood Culture)
    การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เช่น เอ็มอาร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging: MRI) หรือซีที สแกน  (Computerized Tomography Scan: CT-Scan) ในกรณีที่การติดเชื้อมีความรุนแรงและกินลึกลงในชั้นผิวหนัง

การรักษาโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งรักษาให้หายขาดได้ ส่วนใหญ่เป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการผู้ป่วย โดยแพทย์จะพิจารณาจากความรุนแรงของโรค บางรายที่อาการไม่รุนแรงรักษาและบรรเทาอาการได้จากที่บ้าน ส่วนในผู้ป่วยที่อาการรุนแรงอาจต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยรักษาด้วยการฉีดยาปฏิชีวนะและเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด การเกิดเนื้อตาย ซึ่งต้องรับการรักษาโดยการผ่าตัด

การรักษาตัวที่บ้าน

หากเป็นการรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แพทย์มักแนะนำให้จำกัดการเคลื่อนไหวบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานยาแก้ปวด และพยายามลดอาการบวมในบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ เช่น ผู้ป่วยที่เกิดการติดเชื้อที่ขาควรจำกัดการเดินให้น้อยลง อาจมีการลุกเดินเป็นครั้งคราว ในขณะที่นั่งหรือนอนควรยกขาให้สูงกว่าสะโพก ใช้ผ้ารัดขา เพื่อไม่ให้ขาบวมมากขึ้น เมื่อมีอาการปวดมากให้ประคบเย็นบริเวณที่เกิดอาการหรือรับประทานยาแก้ปวด ส่วนแผลเปิดควรล้างและทำแผลเป็นประจำ รวมไปถึงรักษาความสะอาดของแผล

การรักษาด้วยยา

เป็นการรักษาพื้นฐานโดยทั่วไป แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลิน (Penicillin)ให้ผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งระยะเวลาการใช้ยาจะอยู่ประมาณ 10-14 วันตามความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยอาจรักษาตัวที่บ้านโดยรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมกับการรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น รับประทานยาแก้ปวดหรือยาลดไข้ เพื่อช่วยลดไข้และบรรเทาความรู้สึกไม่สบายตัว

หากการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะไม่ได้ผลดี แพทย์อาจเปลี่ยนวิธีการให้ยาหรือเปลี่ยนชนิดของยาเป็นประเภทอื่น เช่น เปลี่ยนจากการรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นการฉีดยาปฏิชีวนะเข้าทางหลอดเลือดดำ หรือใช้ยาต้านเชื้อราในผู้ที่มีสาเหตุของโรคมาจากโรคน้ำกัดเท้า ส่วนในรายที่มีอาการแพ้ยาเพนิซิลลิน แพทย์อาจใช้ยาอีริโธรมัยซิน (Erythromycin) ยาร็อกซิโทรมัยซิน (Roxithromycin) หรือยาปริสตินามัยซิน (Pristinamycin) ทดแทน

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงอาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อรับยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือด โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ และแพทย์อาจให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ หากผู้ป่วยดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารได้น้อย

การผ่าตัด

เป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยที่อาการแย่ลงอย่างรวดเร็วและตัวโรคทำให้เกิดเนื้อเยื่อตาย โดยแพทย์จะผ่าเอาเนื้อเยื่อที่ตายออกบางส่วน

ภาวะแทรกซ้อนของโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งพบภาวะแทรกซ้อนได้น้อย แต่ผู้ป่วยที่ปล่อยให้มีอาการเรื้อรังอาจทำให้เกิดเนื้อตายเน่าบริเวณที่มีการติดเชื้อ การอักเสบเฉียบพลันของหลอดเลือดดำจนเกิดลิ่มเลือดและอุดตัน (Thrombophlebitis) ขาบวมเรื้อรัง หรือเชื้อกระจายเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้โลหิตเป็นพิษ (Septicemia/Bacteremia) และก่อให้เกิดการติดเชื้อตามอวัยวะอื่น ๆ ตามมา เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะติดเชื้อของเยื่อบุหัวใจ (Infective Endocarditis) ข้ออักเสบติดเชื้อ การติดเชื้อที่ถุงน้ำลดการเสียดสี (Bursa) เอ็นอักเสบ การอักเสบของกรวยกรองไต (Post-Streptococcal Glomerulonephritis) โรคหลอดเลือดดำสมองอุดตัน (Cavernous Sinus Thrombosis) หรือภาวะที่พบได้น้อยอย่างกลุ่มอาการ Streptococcal Toxic Shock Syndrome เมื่อเกิดการติดเชื้อในบริเวณใกล้เคียงกับสมอง

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ป่วย 1 ใน 3 รายอาจกลับมาเป็นโรคนี้ได้ใหม่เมื่อมีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอยู่เป็นประจำหรือเกิดความผิดปกติกับท่อน้ำเหลือง ทำให้การระบายของเสียออกจากร่างกายไม่ดี   

การป้องกันโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งยังไม่สามารถป้องกันได้เต็มประสิทธิภาพ แต่หลีกเลี่ยงโอกาสในการเกิดโรคได้ตามคำแนะนำ ดังนี้

    ผู้ที่เกิดบาดแผลตามร่างกายควรล้างแผลอย่างสม่ำเสมอและรักษาบาดแผลให้สะอาด
    ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ เพื่อป้องกันผิวแห้งและแตก
    ไม่ควรเกาผิวหนังแรง ๆ รวมไปถึงขูดหรือแกะผิวหนังเมื่อเกิดแผล
    ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือโรคผิวหนัง เช่น โรคหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease: PAD) โรคน้ำกัดเท้า ผิวหนังอักเสบ โรคเบาหวาน ควรรักษาโรคให้หายขาดหรือควบคุมโรคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ
    เมื่อเกิดความผิดปกติหรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง ควรไปพบแพทย์ เพื่อรักษาให้หายขาดและป้องกันเชื้อกระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายจนเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา

 





























































กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ