ดอกบัวอบแห้ง: รั้วไม้แนวตั้ง ประดับดอกไม้แห้งแฮนด์เมดแนะนำไอเทมเด็ดในช่วงเข้าหน้าหนาวเดือนนี้ด้วยรั้วไม้สุดวินเทจ ในประเทศไทยบ้านเรากำลังอากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่งและมีแสงแดดสดใสในตอนกลางวัน เหมาะสำหรับการทำดอกไม้แห้งไว้ประดับบ้านได้สวยไม้แพ้ฤดูร้อนเลยทีเดียว
เพราะการมีดอกไม้ประดับในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ช่วยเพิ่มความสดใสและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นในทุก ๆ วันของคนรักดอกไม้ โดยเฉพาะดอกไม้โปรดที่ปลูกเองกับมือหรือแม้แต่ดอกไม้ที่ได้รับในวันสำคัญ ก็ยิ่งอยากเก็บไว้เชยชมไปนาน ๆ
นอกจากดอกไม้สดที่สวยสดใสแล้วดอกไม้แห้งก็สวยไม่แพ้กัน แถมยังสามารถรักษาสภาพดอกไม้แสนโปรดให้สวยคลาสสิกอีกด้วย วันนี้มีเคล็ดลับสำหรับการทำดอกไม้แห้ง ที่คงความสวยงามของดอกไม้ ไม่ให้ร่วงโรยไปตามกาลเวลามาฝาก
อันดับแรกดอกไม้ที่จะใช้ทำเป็นดอกไม้แห้งนั้น ควรเก็บจากสวนในตอนเช้า ก่อนที่ดอกไม้จะบานเต็มที่ จากนั้นริบใบออกให้หมด มัดก้านดอกไม้รวมกัน 8-10 ก้านด้วยหนังยางหรือผูกด้วยเชือก แล้วแขวนคว่ำลงในที่มืด แห้ง และมีอากาศถ่ายเท โดยใช้ตะขอหรือไม้แขวน สถานที่ที่เหมาะสำหรับแขวนดอกไม้ เช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องใต้หลังคาหรือโรงรถที่ระบายอากาศได้ดี การทำแห้งใช้ระยะเวลา 2 – 3 สัปดาห์หรือน้อยกว่านี้ก็ได้หากมีสภาพอากาศร้อน ก็จะทำให้ดอกไม้จะแห้งสนิท บางสีอาจจางหายไปบ้าง แต่ดอกไม้ส่วนใหญ่จะยังคงมีเฉดสีดั้งเดิม
ส่วนดอกไม้ที่มีลำต้นบาง เช่น ดอกกระดาษ (Strawflowers) ต้องใช้ลวดเสียบเข้าไปที่กึ่งกลางของกลีบเลี้ยง แล้วดึงทะลุออกมาอีกด้านหนึ่ง แล้วบิดเกลียวเข้าด้วยกันจนเป็นก้านยาว เพื่อช่วยให้ดอกหลุดร่วงเพราะก้านของดอกไม้ชนิดนี้จะย่อยสลายได้ก็ต่อเมื่อแห้ง นอกจากนั้นแล้ว ดอกไม้ที่นิยมนำมาทำแห้ง ส่วนใหญ่จะเป็นดอกไม่ที่มีกลีบเลี้ยงขนาดเล็กและมีกลีบดอกไม้แน่น ไม่หลุดง่าย ได้แก่
1. ดอกหงอนไก่ หรือ Celosia ‘Dragon’s Breath’ ดอกไม้แห้งสุดคลาสสิกที่มีรูปร่างคล้ายหงอนไก่หรือปุยขนนก และสีที่มีแรงบันดาลใจมาจากแสงพระอาทิตย์ตกอย่างสีแดง สีแสด และสีเหลือง บางครั้งมีสีม่วง ครีมและชมพูด้วย เก็บก้านดอกเมื่อตาดอกไม้เปิดเกือบสมบูรณ์แล้ว วางกลับหัว คว่ำลงในที่เย็น มืดและแห้งเป็นเวลา 1 เดือน
2. ดอกกระดาษ หรือ Strawflowers เป็นดอกไม้แห้งง่ายอีกชนิดหนึ่ง วิธีทำคือเก็บดอกไม้ก่อนที่จะบาน เนื่องจากดอกไม้ยังมีความชุ่มชื้นเพียงพอ จากนั้น ตัดก้านให้ยาวประมาณ 12-15 นิ้วและริบใบออก แขวนไว้ในที่แห้งและมืด มีอากาศถ่ายเทดี รอแห้งพร้อมใช้งานได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
3. ลาเวนเดอร์ เป็นดอกไม้แห้งง่ายในแจกันหรือสามารถแขวนเป็นมัดได้ในที่มืดและร้อน ทางที่ดีควรตัดก้านลาเวนเดอร์หลังจากที่น้ำค้างในตอนเช้าระเหยแล้ว
4. กุหลาบ มักเป็นดอกไม้ที่นิยมนำมาทำแห้ง อาจเพราะว่าเป็นดอกไม้แห่งความโรแมนติก ที่ผู้คนมักอยากเก็บดอกไม้ช่อแรกที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักไว้ ซึ่งเคล็ดลับการทำแห้งคือการใช้ดอกกุหลาบ ที่กำลังเริ่มบาน แขวนคว่ำลงให้แห้ง หรือใช้หนังสือทับไว้ให้แบน
5. ไฮเดรนเยีย สี ‘Limelight’ เป็นดอกไม้รูปทรงกรวย มีสีเขียวมะนาว ชนิด mop-head โดยปล่อยไว้ให้บานเต็มที่ แล้วตั้งไว้ในแจกันเปล่าให้แห้ง เป็นอีกดอกไม้ชนิดหนึ่งที่สวยงามเมื่อทำแห้ง
6. เหงือกปลาหมอ หรือ ‘Big Blue Sea Holly Plant’ เป็นดอกไม้ที่ส่องสว่างยามพระอาทิตย์ตกดิน ก้านมีสีฟ้าเรืองแสงและดอกมีสีแห้งสนิทสวยงาม วิธีการทำแห้งจะตัดก้านดอกไม้หลังจากน้ำค้างในตอนเช้าระเหย ก่อนที่ตาไม้จะเปิดหรือก่อนที่ดอกไม้จะโตเต็มที่ ซึ่งโดยปกติแล้วดอกไม้เหล่านี้ จะยังคงบานต่ออีกเล็กน้อยหลังจากตัดแล้ว จากนั้นมัดก้านดอกรวมกันและทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว คว่ำดอกไม้ลง เก็บในที่มืดและแห้ง มิฉะนั้นสีน้ำเงินจะจางหายไปตามเวลาจนเกือบเป็นสีเทา
สำหรับเคล็ดลับการคงสีดอกไว้ให้อยู่ได้นาน คือการทำให้แห้งอย่างรวดเร็วภายในรถยนต์ที่ร้อน คือ เลือกดอกไม้แล้วโยนไว้ในท้ายรถ Jim Long จาก Long Creek Herb Farm แนะนำไว้ในบล็อกและหนังสือของเขาว่า ตัวรถยนต์เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการทำดอกไฮเดรนเยียแห้งและดอกไม้แห้งชนิดอื่นๆ โดยเขามักจะโยนดอกไม้ไว้ท้ายรถ ที่จอดอยู่กลางแดดเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อรักษาสีของดอกไม้ นอกจากนี้ เสียงของกลีบดอกไม้แห้งควรมีเสียงเหมือนเวลาขยำกระดาษทิชชู
ส่วนการทำดอกไม้แห้งด้วยวิธีกดหรือใช้หนังสือหนัก ๆ ทับให้แบนนั้น ควรเปิดหนังสือหน้ากลางของเล่มและวางกระดาษ Parchment หรือกระดาษขี้ผึ้ง จากนั้นเรียงกลีบดอกไม้คว่ำหน้าลงบนกระดาษและปิดหนังสือ ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 7-10 วัน หรืออีกวิธีหนึ่งคือการใช้ซิลิกาเจล (สารดูดความชื้น) ซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ เหมือนเม็ดทราย กลบดอกไม้ไว้ในกล่องประมาณ 1 สัปดาห์ วิธีนี้นิยมใช้กับการทำดอกไม้แห้งเป็นช่อ
อย่างไรก็ตาม ดอกไม้แห้ง นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังเก็บความทรงจำดี ๆ ไว้ได้นานขึ้นอีกด้วย รวมทั้งยังสามารถนำมาตกแต่งบ้านและทำเป็นอุปกรณ์ D.I.Y ได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะนำไปใช้ตกแต่งเทียน การทำเครื่องหอม หรือใช้แขวนประดับบ้านสร้างสรรค์บรรยากาศให้สดชื่นและอบอุ่นสไตล์วินเทจ โดยใช้รั้วดอกไม้แบบแขวนผนังที่สามารถใช้แขวนตากแห้งดอกไม้และประดับตกแต่งบ้านได้สวยงามในเวลาเดียวกัน