แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 67
1
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


2
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


3
อาหารสายยาง อาหารสำหรับผู้ป่วยเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต

การรับประทานอาหารในแต่ละวัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราสามารดำรงชีวิตต่อไปได้ ทำให้ร่างกายมีพลังงานที่เพียงต่อความต้องการของร่างกายที่จะนำไปใช้ในแต่ละวัน แต่คนส่วนมากมักจะคำนึงถึงเรื่องความอร่อยและรสชาตของอาหารมากกว่าพลังงานที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน จึงส่งผลให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ ตามมามากมาย และในวันนนี้จะมาแนะนำอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากปัญหาหลอดเลือดแดงตีบ หรือ สโตรก ซึ่งอาการหลักๆ ของโรคก็คือจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ เป็นภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้เกิดอาการ ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงหรือชาที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดถือเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมอง

โดยประเทศไทยพบโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ หากเรารู้จักดูแลตนเองควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงจะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคดังกล่าวได้ และวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันหรือช่วยบรรเทาการเกิดภาวะสมองขาดเลือดคือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

สำหรับปัจจัยที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต ก็คืออายุ โดยจะพบได้มากในคนที่มีอายุมาก โดยเฉพาะวัย 50 ปีขึ้นไป และจะยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามช่วงอายุอีกด้วย ต่อมาคือเพศ ซึ่งพบว่าผู้ชายมีความเสี่ยงต่อโรคนี้ได้มากกว่าผู้หญิง โดยอาจเป็นเพราะผู้ชายมักจะมีความดันโลหิตที่สูงกว่า ภาวะการเต้นของหัวใจ หากหัวใจเต้นผิดปกติ เพราะจะก่อให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ง่ายขึ้น จึงเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ในเรื่องของกรรมพันธุ์ โดยพบว่าในคนที่พ่อแม่มีประวัติเป็นโรคหัวใจมาก่อน จะมีความเสี่ยงได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า และปัจจัยสุดท้ายคือความดันโลหิตสูง ซึ่งพบว่าหากความดันสูงมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากเท่านั้น โดยผู้ที่มีระดับความดันสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท จะมีความเสี่ยงสูงถึง 7 เท่า ดังนั้นการรับประทานอาหารจจึงมีส่วนที่ช่วยในการลดความดัน โดยเฉพาะอาหารแดช อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง พร้อมกับลดปริมาณโซเดียมให้ต่ำลงนั่นเอง ซึ่งการรับประทานอาหาร ยิ่งในผู้ป่วยต้องคำนึงให้มากเป็นพิเศษ เพราะอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันนั้น ส่งผลต่อร่างกายโดยตรง เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็จะทำให้ลดภาวะเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆได้

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็จะช่วยป้องกัน อัมพฤกษ์ อัมพาต ได้เช่นเดียวกัน โดยอาหารที่จะช่วยต้านอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ดีคืออาหารประเภทปลาทะเล เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยในการลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ ควบคุมการเต้นของหัวใจและลดการแข็งตัวของเกล็ดเลือดได้เป็นอย่างดี ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต อย่างแน่นอน และควรรับประทานวิตามินรวมวันละ 1 เม็ด เพื่อเสริมวิตามินให้เพียงพอสำหรับร่างกายนอกเหนือจากการรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกหรือกรดโฟลิกเสริม เพราะจะช่วยในการลดระดับฮอร์โมนซิสเตอีนในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ

ซึ่งก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ โดยอาหารที่มีโฟเลตสูงได้แก่ สตรอว์เบอร์รี่ ถั่วแดง ส้ม บร็อคโคลี เป็นต้น และอาจจะเสริมด้วยวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะช่วยในการสร้างเสริมผนังหลอดเลือดแดงให้มีความแข็งแรงมากขึ้น และสามารถลดความดันโลหิต พร้อมป้องกันเกล็ดเลือดจับตัวกันได้ดีอีกด้วย ต่อมาคืออาหารประเภท อาหารที่มีใยอาหารชนิดละลายน้ำ โดยจะช่วยในการลดระดับของคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงหลอดเลือดตีบได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็จะพบได้มากในถั่วเหลืองและข้าวโอ๊ต นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากมายอีกด้วย อาหารี่มีแคลเซียมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสโตรกโดยตรง และให้ผลลัพธ์ที่ดีมากในผู้หญิง ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมสูงและเหมาะกับการรับประทานเพื่อป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาตที่สุด ก็คือ ผักใบเขียว งา ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนย เป็นต้น เพราะฉะนั้นเราก็ขอสนับสนุนให้เราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

4
ก่อนติดตั้งผ้ากันไฟ ต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง

ก่อนติดตั้งผ้ากันไฟ ควรเตรียมความพร้อมในหลายด้าน เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดังนี้:

1. การประเมินความเสี่ยงและกำหนดจุดติดตั้ง

วิเคราะห์ความเสี่ยง: ประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ในบริเวณต่างๆ ของอาคารหรือโรงงาน เพื่อกำหนดจุดติดตั้งผ้ากันไฟที่เหมาะสม
กำหนดจุดติดตั้ง: เลือกตำแหน่งติดตั้งที่เข้าถึงได้ง่ายและครอบคลุมบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องครัว ห้องเครื่องจักร หรือบริเวณที่มีสารไวไฟ
วัดขนาดพื้นที่: วัดขนาดพื้นที่ที่จะติดตั้งผ้ากันไฟ เพื่อเลือกขนาดผ้ากันไฟที่เหมาะสม

2. การเลือกผ้ากันไฟที่เหมาะสม

ประเภทของวัสดุ: เลือกผ้ากันไฟที่ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนและไม่ลามไฟ เช่น ผ้าใยแก้ว ผ้าซิลิกา หรือผ้าเคฟลาร์
คุณสมบัติเพิ่มเติม: พิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การกันน้ำ การกันสารเคมี หรือการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขนาดและรูปแบบ: เลือกขนาดและรูปแบบของผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ผ้าผืน ผ้าห่ม หรือผ้ากันเปื้อน

3. การเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือ

อุปกรณ์ติดตั้ง: เตรียมอุปกรณ์ติดตั้ง เช่น ตะขอ สกรู หรืออุปกรณ์ยึดอื่นๆ ให้พร้อมใช้งาน
เครื่องมือช่าง: เตรียมเครื่องมือช่างที่จำเป็น เช่น สว่าน ค้อน หรือไขควง
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE): เตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ แว่นตา หรือหน้ากาก เพื่อป้องกันอันตรายจากการติดตั้ง

4. การเตรียมพื้นที่ติดตั้ง

ทำความสะอาดพื้นที่: ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะติดตั้งผ้ากันไฟให้ปราศจากสิ่งกีดขวาง
ตรวจสอบความแข็งแรง: ตรวจสอบความแข็งแรงของผนังหรือเพดานที่จะติดตั้งผ้ากันไฟ
กำหนดตำแหน่งติดตั้ง: ทำเครื่องหมายตำแหน่งที่จะติดตั้งผ้ากันไฟให้ชัดเจน

5. การฝึกอบรมและการวางแผน

ฝึกอบรมการใช้งาน: ฝึกอบรมพนักงานหรือผู้อยู่อาศัยให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานผ้ากันไฟ
วางแผนการอพยพ: วางแผนการอพยพในกรณีเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ และกำหนดจุดรวมพล
ตรวจสอบและบำรุงรักษา: วางแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษาผ้ากันไฟอย่างสม่ำเสมอ

ข้อควรระวัง
ควรติดตั้งผ้ากันไฟตามคำแนะนำของผู้ผลิตและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง
ควรตรวจสอบผ้ากันไฟเป็นประจำ เพื่อหารอยชำรุดหรือความเสียหาย
ควรฝึกซ้อมการใช้ผ้ากันไฟ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

5
motor show: GWM ส่งมอบ GWM POER SAHAR HEV ให้กับลูกค้าคนแรกในไทย พร้อมชวนร่วมทดลองขับผ่านพาร์ทเนอร์ สโตร์ 17 สาขาทั่วประเทศ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ หนึ่งในผู้นำรถยนต์พลังงานใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมอัจฉริยะ จัดกิจกรรมส่งมอบ GWM POER SAHAR HEV รถกระบะขุมพลังไฮบริดให้กับลูกค้าคนแรก ที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารดังในจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งยังพร้อมให้ลูกค้าได้ทดลองขับผ่านพาร์ทเนอร์ สโตร์ทั้งหมด 17 สาขาทั่วประเทศ นับเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของรถกระบะขุมพลังไฮบริด ที่เข้ามาเปลี่ยนนิยามของรถกระบะในไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น เสริมทัพความแข็งแกร่งของยานยนต์พลังงานใหม่ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างให้ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทยแข็งแกร่ง และยั่งยืนต่อไป

หลังการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ GWM POER SAHAR HEV เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 กลางงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Motor Expo 2024) ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ดำเนินการส่งมอบรถยนต์ล็อตแรกให้กับลูกค้ากลุ่มแรกของประเทศไทย ณ พาร์ทเนอร์ สโตร์ GWM สุวรรณภูมิลาดกระบัง โดยบรรยากาศในการส่งมอบเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของลูกค้า

ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านที่มอบความไว้วางใจให้กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และขอต้อนรับลูกค้าที่เปิดใจรับ GWM POER SAHAR HEV เข้าสู่ครอบครัวเป็นคนแรกของประเทศไทย หลังจากที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการไปเพียง 12 วันเท่านั้น เรามั่นใจว่ารถยนต์รุ่นนี้จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของลูกค้า ทั้งท่องเที่ยว ทำงาน และใช้ชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม เป็นรถกระบะคันแรก ๆ ในประเทศไทยที่เป็นพลังงานทางเลือกใหม่ให้กับคนไทย อีกทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความหรูหรา สะดวกสบาย แต่ยังมีพละกำลังและสมรรถนะที่เต็มเปี่ยม รวมถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายที่อัดแน่นอยู่ในรถคันนี้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางระดับเฟิร์สคลาสอย่างแท้จริง เราเชื่อว่า GWM POER SAHAR HEV จะช่วยยกระดับมาตรฐานรถกระบะไปอีกขั้น ฉีกกฏการใช้รถกระบะแบบเดิม ๆ เสริมทัพความแข็งแกร่งของยานยนต์พลังงานใหม่ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

สำหรับลูกค้าที่สนใจทดลองขับ GWM POER SAHAR HEV สามารถไปสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือระดับได้ที่พาร์ทเนอร์ สโตร์ 17 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
GWM อมรรัชดา
GWM ซีซีซี ออโต้ วัชรพล
GWM ไอคอนิก รามอินทรา
GWM คาร์แมน วงศ์สว่าง
GWM มหานคร พหลโยธิน กม.25
GWM  มอเตอร์ มอลล์ พระราม 2
GWM สุวรรณภูมิ ลาดกระบัง
GWM พระนคร อุดมสุข
GWM วี อัลติเมทคาร์ บางบัวทอง
ภาคกลาง
GWM พระนคร สระบุรี
GWM ตงเจริญมอเตอร์เซลส์ สมุทรสาคร
ภาคตะวันออก
GWM เอก ระยอง
ภาคเหนือ
GWM ซีซีซีออโต้ เชียงใหม่
GWM แองเจิลเวย์ เชียงราย
GWM พระนคร นครสวรรค์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
GWM ฑีฆ อุดรธานี
ภาคใต้
GWM อนุภาษ ภูเก็ต

GWM POER SAHAR HEV – The First-Class Intelligent Pickup รถกระบะขุมพลังไฮบริดรุ่นแรกในไทย รุ่นเรือธงล่าสุดภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ POER จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO ในราคา 1,189,000 บาท และ รุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ในราคา 1,389,000 บาท พิเศษ สำหรับลูกค้าที่ออกรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 รับส่วนลดพิเศษ 50,000 บาททันที โดย GWM POER SAHAR HEV มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทา (Ayers Gray), สีขาว (Hamilton White) และสีดำ (Sun Black) ร่วมกับเฉดสีภายในอย่างสีดำ Jade Black  มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และฟรี ค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทางภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง)

6
หมอประจำบ้าน: ตาขี้เกียจ (Amblyopia/Lazy Eye)

ตาขี้เกียจ (Amblyopia/Lazy Eye) คือ โรคทางสายตาที่ทำให้ดวงตามองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะส่งผลให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงและตาบอดถาวรในอนาคต โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับดวงตาข้างเดียว แต่บางรายอาจพบได้ทั้งสองข้าง

ตาขี้เกียจเป็นปัญหาทางสายตาที่มักจะปรากฏในเด็กอายุไม่เกิน 7 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่มีพัฒนาการทางการมองเห็น โดยโรคตาขี้เกียจเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีป้องกัน แต่หากตรวจพบได้เร็ว ก็จะยิ่งรักษาให้ดีขึ้นได้เร็วและป้องกันอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ควรไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตเห็นอาการผิดปกติต่าง ๆ บริเวณดวงตา

สาเหตุของตาขี้เกียจ

ตาขี้เกียจอาจเป็นผลมาจากสภาวะใด ๆ ที่บดบังการมองเห็นของดวงตา ทำให้พัฒนาการทางสายตาแย่ลงจนมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

    ตาเขหรือตาเหล่ (Strabismus) เป็นอาการที่ดวงตาข้างหนึ่งอาจมองตรง ส่วนอีกข้างมองไปยังทิศทางอื่น ซึ่งจะทำให้มองเห็นภาพซ้อน ผู้ที่มีอาการจึงเลือกใช้ดวงตาข้างที่มองตรงเพื่อหลีกเลี่ยงการเห็นภาพซ้อน จึงทำให้ดวงตาอีกข้างไม่พัฒนาตามปกติและทำให้เกิดตาขี้เกียจ
    ภาวะค่าสายตาผิดปกติที่ต่างกันมาก (Refractive Errors) ทั้งสายตายาว สายตาสั้น หรือสายตาเอียง เพราะแสงที่ส่องผ่านเข้าเลนส์ตามากน้อยไม่เท่ากัน ทำให้สมองเลือกตอบสนองกับดวงตาข้างที่รับแสงได้ดีกว่า ดวงตาอีกข้างจึงไม่ค่อยถูกใช้งานและพัฒนาน้อยกว่าอีกข้าง
    ความผิดปกติที่ทำให้เกิดความมัวในตา (Stimulus Deprivation Amblyopia) เป็นความผิดปกติที่เกิดได้จากมีสิ่งกีดขวางหรือบดบังการมองเห็นของดวงตา ทำให้การรวมแสงไม่ตกบนจอตา ผู้ป่วยจึงมองเห็นภาพได้ไม่ชัด

นอกจากนี้ เด็กบางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงทำให้มีโอกาสในการเป็นโรคนี้มากกว่าปกติเมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เช่น

    มีสภาวะบางอย่างที่ทำให้แสงเข้าตาได้ไม่ปกติ เช่น เป็นต้อกระจก หนังตาตก
    มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคตาขี้เกียจ ตาเขหรือตาเหล่
    เด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือคลอดออกมาน้ำหนักตัวน้อย
    มีความผิดปกติด้านพัฒนาการ

อาการตาขี้เกียจ

โรคนี้ค่อนข้างสังเกตได้ยาก และตัวเด็กเองก็อาจแยกออกไม่ออกว่าเกิดอาการกับดวงตาข้างใดข้างหนึ่งหรือไม่ ยกเว้นในกรณีที่มองเห็นความผิดปกติจากดวงตาได้ชัดเจน ผู้ป่วยมักมีอาการ ดังนี้

    การมองเห็นของดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างแย่ลง
    มีอาการตาเหล่ ต้องเอียงศีรษะหรือปิดตาไว้ข้างหนึ่ง เพื่อให้มองเห็นได้ชัด
    การกะระยะหรือวัดความห่างระหว่างวัตถุกับสิ่งอื่น ๆ ทำได้ยาก
    ดวงตาเบนเข้าด้านในหรือออกด้านนอก
    ปวดศีรษะ

พ่อแม่อาจเริ่มสังเกตอาการของเด็กได้ตั้งแต่หลังคลอดไม่กี่สัปดาห์ แต่ในเด็กบางคนอาจไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน จึงจำเป็นต้องอาศัยการตรวจสายตาอย่างละเอียดเป็นหลัก โดยแพทย์มักจะแนะนำให้เด็กอายุระหว่าง 3–5 ปีเข้ารับการตรวจคัดกรองสายตา เพราะการตรวจพบโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้พัฒนาการทางด้านสายตาของเด็กเป็นไปตามวัย

อาการตาขี้เกียจที่ควรไปพบแพทย์

หากพบอาการตาขี้เกียจหรืออาการผิดปกติใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับดวงตาของเด็ก พ่อแม่ควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อตรวจสายตา นอกจากนี้ เด็กที่มีความเสี่ยงในการเกิดตาขี้เกียจ ก็ควรไปตรวจสายตาเช่นกัน เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคตาขี้เกียจ เป็นโรคต้อกระจกหรือภาวะทางสายตาอื่น ๆ

การวินิจฉัยตาขี้เกียจ

แพทย์จะตรวจวินิจฉัยโรคด้วยการตรวจตาอย่างละเอียดและวัดสายตา ซึ่งเทคนิคในการตรวจต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับอายุของเด็กเป็นหลัก หากเป็นเด็กที่มีอาการตาเหล่หรือตาเข แพทย์ผู้ชำนาญการตรวจวัดภาวะตาเขหรือตาเหล่โดยเฉพาะจะช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเกิดตาขี้เกียจที่อาจทำให้การรักษายากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการตรวจด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมในกรณีที่พบว่าผลการตรวจสายตาเป็นปกติ แต่สงสัยว่าอาจมีโรคซ่อนอยู่ เช่น ซีที สแกน (CT Scan) เอ็มอาร์ไอ (MRI) การตรวจหาจุดรั่วด้วยการฉีดสีฟลูออเรสซีน (Fluorescein Angiography) การตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ (Electrophysiology Study) การถ่ายภาพของจอประสาทตา (Spectral-Domain Optical Coherence Tomography: SD-OCT)

การรักษาตาขี้เกียจ

การตรวจพบตาขี้เกียจตั้งแต่เด็กจะมีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้สูงกว่าเมื่อพบตอนเป็นผู้ใหญ่ โดยการรักษาก่อนอายุ 7 ปี จะได้ผลดีมากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการพัฒนาดวงตาและสมองส่วนที่ควบคุมการมองเห็น แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงอายุ 7–9 ปีขึ้นไป การรักษาอาจทำได้ยากมากขึ้นตามอายุ อย่างไรก็ตามในช่วงอายุไม่เกิน 17 ปี การตอบสนองต่อการรักษายังเป็นไปได้ด้วยดี

แนวทางในการรักษาจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ป่วยใช้งานดวงตาข้างที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เพื่อช่วยให้สมองทำงานประสานกับดวงตาข้างที่ใช้งานน้อยให้มากขึ้น และรักษาความผิดปกติของสายตาที่เป็นต้นเหตุ โดยอาจใช้หลายวิธีควบคู่กัน ดังนี้

    สวมแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาของผู้ป่วยที่มีความต่างระหว่างสายตาทั้งสองข้างมาก จึงทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนและสั่งการสมองให้ทำงานประสานกับดวงตาข้างที่อ่อนแอมากขึ้น เพื่อพัฒนาสายตาทั้ง 2 ข้างให้มีการทำงานเท่ากันและเป็นไปตามปกติ
    ใส่ที่ครอบตา แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยสวมที่ครอบตากับดวงตาข้างที่ใช้งานบ่อยเป็นระยะเวลาประมาณ 2–6 ชั่วโมงต่อวันในช่วงเวลาที่มีการใช้งานดวงตา โดยอาจต้องสวมที่ครอบตาไว้ติดต่อกันนานเป็นสัปดาห์ไปจนถึงเป็นปีตามสถานการณ์ของแต่ละคน
    ใช้ยาหยอดตา เป็นยาหยอดตาที่มีส่วนประกอบของสารอะโทรปีนหยอดลงในตาข้างที่แข็งแรงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อทำให้เกิดอาการมัวชั่วคราวและกระตุ้นให้ดวงตาข้างที่อ่อนแอใช้งานมากขึ้น แต่อาจส่งผลให้ดวงตามีความไวต่อแสงมากขึ้น
    การผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีสาเหตุตาขี้เกียจจากตาเขหรือตาเหล่ หนังตาตก และการรักษาในวิธีข้างต้นไม่ได้ช่วยให้ตำแหน่งของสายตากลับมาเป็นปกติ แพทย์อาจแนะนำให้มีการผ่าตัดกล้ามเนื้อดวงตาเพื่อให้ทำงานได้เป็นปกติมากขึ้น

ระยะเวลาในการรักษาอาจแตกต่างกันออกไปตั้งแต่หลายสัปดาห์ไปเป็นปี แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 6 เดือนถึง 2 ปี นอกจากนี้ หลังการรักษาจบลงอาจต้องมีการตรวจดูอาการอยู่เป็นระยะ เพราะเด็กที่เคยเป็นตาขี้เกียจยังอาจมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกครั้ง

ภาวะแทรกซ้อนของตาขี้เกียจ

เมื่อผู้ป่วยที่เป็นโรคตาขี้เกียจไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลาอาจส่งผลให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงไปจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

การป้องกันตาขี้เกียจ

เด็กทุกคนมีโอกาสในการเกิดตาขี้เกียจ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่กล่าวไปข้างต้น หากเป็นทารกแรกเกิดไปจนถึงวัย 6–12 เดือน พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของทารกและพบแพทย์ตามนัดการตรวจสุขภาพของเด็กอย่างสม่ำเสมอ สำหรับเด็กที่อยู่ในช่วงวัยก่อนเข้าเรียนหรืออายุประมาณ 3–5 ปี ควรเข้ารับการตรวจวัดสายตาเป็นประจำเพื่อการตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ในระยะเนิ่น ๆ และรักษาได้ทันท่วงที

7
สร้างรายได้ จากการขายไข่ตุ๋นญี่ปุ่น สูตรเนียนนุ่ม ละลายในปากรสชาติกลมกล่อม ทำง่าย ขายได้กำไร

ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นทำง่าย ขายได้กำไร ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นหรือชะวันมูชิเป็นคัสตาร์ดไข่ที่นุ่มละมุนและรสชาติกลมกล่อม ทำง่ายแต่เต็มไปด้วยรสชาติอูมามิ ด้วยเนื้อสัมผัสอันละเอียดอ่อนและส่วนผสมที่ปรับแต่งได้ ทำให้เมนูนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่ชื่นชอบในอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีสำหรับผู้ประกอบการด้านอาหาร มาดูกันว่าคุณสามารถทำชะวันมูชิได้อย่างง่ายดาย

ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นเป็นเมนูยอดนิยมที่ทำง่ายและสร้างรายได้ดี นี่คือเคล็ดลับและสูตรที่จะช่วยให้คุณทำไข่ตุ๋นญี่ปุ่นได้อร่อยและขายดี

Chawanmushi คืออะไร?
Chawanmushi (茶碗蒸し) แปลว่า “นึ่งในถ้วยชา” ซึ่งหมายถึงวิธีการเสิร์ฟแบบดั้งเดิม Chawanmushi มีเนื้อสัมผัสเนียนคล้ายคัสตาร์ด ซึ่งเกิดจากการนึ่งส่วนผสมของไข่ ดาชิ (น้ำซุปญี่ปุ่น) และไส้ต่างๆ เช่น เห็ด กุ้ง ไก่ และลูกชิ้นปลา ซึ่งแตกต่างจากไข่เจียวหรือไข่คนทั่วไป

เคล็ดลับความอร่อย
น้ำซุปดาชิ: หัวใจของไข่ตุ๋นญี่ปุ่นคือ น้ำซุปดาชิ ซึ่งทำจากปลาโอแห้งและสาหร่ายคอมบุ น้ำซุปนี้จะให้รสชาติอูมามิที่กลมกล่อม หากไม่มีเวลาทำเอง สามารถใช้ผงดาชิสำเร็จรูปได้
ไข่สด: ใช้ไข่ไก่สดใหม่ เพื่อให้ไข่ตุ๋นมีเนื้อเนียนนุ่ม
การกรองไข่: กรองส่วนผสมไข่ผ่านกระชอนตาถี่ 2-3 ครั้ง เพื่อให้เนื้อไข่เนียนละเอียด
ไฟอ่อน: ใช้ไฟอ่อนในการตุ๋น เพื่อให้ไข่ค่อยๆ สุกและเนื้อเนียน ไม่แข็งกระด้าง
เครื่องเคียง: เพิ่มเครื่องเคียงหลากหลาย เช่น ปูอัด, เห็ดหอม, กุ้ง, หรือผักต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและรสชาติ

ส่วนผสมสำหรับทำชาวันมูชิแบบคลาสสิก
ในการทำอาหารจานอร่อยนี้ คุณจะต้องมี:
ไข่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
น้ำซุปดาชิ 1 ½ ถ้วย (หรือใช้น้ำซุปไก่หรือผักแทนได้)
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
มิริน (ไวน์ข้าวหวานญี่ปุ่น) 1 ช้อนชา
เกลือเล็กน้อย
ไส้ตามต้องการ: เห็ดหั่นบาง กุ้ง ไก่ เค้กปลา หรือถั่วแระญี่ปุ่น
คู่มือการทำ Chawanmushi ทีละขั้นตอน

เตรียมส่วนผสมไข่

ตีไข่เบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟองอากาศ
เติมน้ำซุปดาชิ ซอสถั่วเหลือง มิริน และเกลือ จากนั้นผสมให้เข้ากัน กรองส่วนผสมผ่านตะแกรงละเอียดเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เนียนลื่น
เตรียมไส้

วางกุ้ง ไก่ และเห็ดไว้ที่ก้นถ้วยหรือชามทนความร้อน

เทส่วนผสมไข่ลงไป

ค่อยๆ เทส่วนผสมไข่ลงบนไส้โดยให้แน่ใจว่าไม่มีฟองอากาศก่อตัวบนพื้นผิว

ไอน้ำสู่ความสมบูรณ์แบบ

ปิดฝาถ้วยหรือฟอยล์ นึ่งด้วยไฟอ่อนประมาณ 12-15 นาที ตรวจสอบว่าสุกหรือยังโดยเสียบไม้จิ้มฟันเข้าไป ถ้ามีของเหลวใสๆ ไหลออกมา แสดงว่าสุกแล้ว!

เสิร์ฟและเพลิดเพลิน

ตกแต่งด้วยผักชีฝรั่งหรือเปลือกยูซุฝานบางๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
เหตุใด Chawanmushi จึงเป็นแนวคิดทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม

ต้นทุนต่ำ กำไรสูง

ส่วนผสมมีราคาไม่แพง และลงทุนเพียงเล็กน้อยก็สามารถให้ผลตอบแทนสูงได้

สุขภาพดีและทันสมัย

ผู้บริโภคในปัจจุบันแสวงหาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและแคลอรี่ต่ำ ทำให้ Chawanmushi เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ

ปรับแต่งได้และหลากหลาย

คุณสามารถสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยไส้ที่แตกต่างกัน เช่น น้ำมันทรัฟเฟิล ปู หรือเต้าหู้ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

เหมาะสำหรับร้านอาหารและการจัดส่ง

Chawanmushi สามารถขายเป็นเครื่องเคียง ของขบเคี้ยว หรือเป็นเมนูพรีเมี่ยมสำหรับบริการจัดส่งได้

ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นไม่ใช่แค่เมนูธรรมดาๆ ที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นแม่บ้านที่กำลังมองหาวิธีขายอาหารทำเองหรือเจ้าของร้านอาหารที่ต้องการเพิ่มเมนูพิเศษให้กับเมนูของคุณ อาหารญี่ปุ่นคลาสสิกจานนี้ก็อาจเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ ลองทำวันนี้แล้วคุณจะพบว่ามันง่ายและคุ้มค่าแค่ไหน

8
การสร้างอาชีพ จากการขายสะระแหน่สมุนไพรไทยสารพัดประโยชน์ที่มีคุณประโยชน์มากมาย

สะระแหน่เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในอาหารไทยและยาแผนโบราณและมีชื่อเสียงในเรื่องกลิ่นหอมสดชื่น รสเย็นและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สมุนไพรเอนกประสงค์ชนิดนี้ใช้ปรุงอาหาร เครื่องดื่ม และยารักษาโรคตามธรรมชาติ ทำให้กลายเป็นอาหารหลักในครัวเรือนของคนไทย สะระแหน่มีประโยชน์และสรรพคุณทางยามากมายเป็นที่นิยมนำมาประกอบอาหารและใช้เป็นส่วนประกอบของยาหลายชนิด

ลักษณะของสะระแหน่
สะระแหน่มีใบสีเขียวสด มีเนื้อย่นเล็กน้อย ลำต้นมีรูปร่างสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของพืชในวงศ์สะระแหน่ สะระแหน่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่นและชื้น จึงเหมาะแก่การปลูกในประเทศไทย พืชชนิดนี้มีกลิ่นหอมเย็นสบายเนื่องจากมีเมนทอล อยู่ แม้ว่าจะมีความเข้มข้นน้อยกว่าสะระแหน่ก็ตาม

การใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหารไทย
สะระแหน่เป็นส่วนผสมหลักของอาหารไทยหลายชนิด ทำให้มีรสชาติสดชื่นและหวานเล็กน้อย อาหารยอดนิยมที่มีสะระแหน่เป็นส่วนประกอบ ได้แก่:

ลาบ – สลัดเนื้อสับรสเผ็ดตกแต่งด้วยใบสะระแหน่สด
ยำ – สลัดไทยรสเผ็ดหลายชนิด มักใส่สะระแหน่ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความสดชื่น
เครื่องดื่มสมุนไพรไทยชงกับชาหรือผสมในเครื่องดื่มสดชื่น
ประโยชน์ต่อสุขภาพของสะระแหน่
สะระแหน่ไม่เพียงแต่เป็นส่วนผสมที่มีรสชาติดีต่ออาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติทางยาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย:

🌿 ช่วยระบบย่อยอาหาร
สะระแหน่ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายท้องลดอาการท้องอืด และส่งเสริมการย่อยอาหารให้มีสุขภาพดี มักใช้เพื่อบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยและคลื่นไส้

🌿 ส่งเสริมสุขภาพช่องปาก
เนื่องจากสะระแหน่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงนิยมนำมาใช้ในน้ำยาบ้วนปากและยาสีฟันเพื่อให้ลมหายใจสดชื่นและลดการเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก

🌿 ช่วยดูแลสุขภาพทางเดินหายใจ
สรรพคุณในการทำให้เย็นของสะระแหน่สามารถช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและบรรเทาอาการเจ็บคอได้ การสูดดมไอน้ำจากสะระแหน่หรือการดื่มชาเขียวมิ้นต์สามารถบรรเทาอาการหายใจลำบากได้

🌿 ลดความเครียดและความวิตกกังวล
กลิ่นหอมอันผ่อนคลายของสะระแหน่เป็นที่ทราบกันดีว่ามีผลผ่อนคลายจิตใจจึงมีประโยชน์ในอะโรมาเทอราพีเพื่อช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล

🌿 อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
สะระแหน่มีฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอลซึ่งช่วยปกป้องร่างกายจากความเครียดออกซิเดชันและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง

วิธีปลูกสะระแหน่ที่บ้าน
สะระแหน่เป็นสมุนไพรที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในกระถางหรือแปลงดอกไม้ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนง่ายๆ ในการปลูกสะระแหน่สดของคุณเอง:

เลือกสถานที่ที่เหมาะสม – สะระแหน่เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณ ที่มีร่มเงาบาง ส่วนถึงแสงแดดเต็มที่
ใช้ดินที่มีการระบายน้ำที่ดี – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุและระบายน้ำได้ดี
รดน้ำเป็นประจำ – รักษาให้ดินมีความชื้นแต่ไม่แฉะเกินไป
เก็บเกี่ยวบ่อยครั้ง – การตัดแต่งเป็นประจำจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตใหม่และรักษาสุขภาพของพืช

สะระแหน่เป็นมากกว่าสมุนไพรที่มีรสชาติดี แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายไม่ว่าจะใช้ในการปรุงอาหาร การรักษาด้วยสมุนไพร หรือการดูแลส่วนตัว สมุนไพรไทยที่สดชื่นนี้ถือเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับบ้านทุกหลัง การปลูกสะระแหน่เองช่วยให้ได้ของสดและออร์แกนิก ทำให้เป็นพืชที่มีประโยชน์และเพลิดเพลิน

9
โปรโมชั่นแท็บเล็ต: แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (256GB) Wi-Fi
39,900 บาท

แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (256GB) Wi-Fi

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (256GB) Wi-Fi
   ราคากลาง         39,900 บาท
   จำนวนซิม           -
   สี                     Silver, Black
   ความถี่-เครือข่าย
   ขนาด-น้ำหนัก                     ยาว 177.5 x กว้าง 249.7 x หนา 5.3 มม., น้ำหนัก 444 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน-ROM       256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่                           N/A

ชนิดจอ
   ชนิดจอ                Ultra XDR Retina OLED
   ขนาด-ความละเอียด   11 นิ้ว, 1,668 x 2,420 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                  กล้องหลัง (12 Mpx), กล้องหน้า (12 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                                 -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)             Apple M4
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)                8 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                 -
   ระบบรับส่งข้อความ                     -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต             WiFi

10
หมอประจำบ้าน: กินสารพิษหรือยาพิษ (Ingestion of poisons)

สารพิษหรือยาพิษ ที่เข้าสู่ร่างกายโดยการกินที่พบบ่อย ๆ ได้แก่

1. ยา เช่น ยาที่ใช้ภายนอก (ทิงเจอร์ไอโอดีน ด่างทับทิม) ยาแก้ปวด (แอสไพริน พาราเซตามอล) ยานอนหลับ ยาถ่าย ยารักษาโรคหัวใจ เป็นต้น

ยาพวกนี้ถ้ากินเข้าไปจำนวนมากอาจเป็นพิษได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก

2. วัตถุเคมีที่ใช้ในบ้าน เช่น ผงซักฟอก น้ำยาขัดพื้น แลกเกอร์ ทินเนอร์ น้ำมันก๊าด ดีดีที เป็นต้น

3. สารเคมีที่ใช้ในทางเกษตรกรรม เช่น ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช เป็นต้น

4. ยาพิษที่ใช้เบื่อสัตว์ เช่น ยาเบื่อหนูหรือสุนัข

5. สัตว์หรือพืชพิษ อ่านเพิ่มเติมใน พิษปลาปักเป้า พิษแมงดาถ้วย, พิษปลาทะเล, พิษหอยทะเล, พิษคางคก และพิษเห็ด

สาเหตุ

เด็กบางคนอาจกินสารพิษเพราะความไม่รู้ภาษาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น ดื่มน้ำมันก๊าด หรือกินยาเม็ดที่มีสีสันสวย ๆ หรือกินยาน้ำที่ออกรสหวาน เป็นต้น

ผู้ใหญ่อาจกินสารพิษเพราะความเผอเรอ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจงใจที่จะฆ่าตัวตายได้

อาการ

อาการขึ้นกับชนิดและปริมาณของสารพิษ และระยะเวลาที่กิน

ในที่นี้จะกล่าวถึงสารเคมีที่อาจพบได้บ่อยเพียงบางชนิดเท่านั้น เช่น

ยานอนหลับกลุ่มบาร์บิทูเรต ถ้ากินเกินขนาดมาก ๆ จะทำให้ซึม ไม่ค่อยรู้ตัว หายใจตื้นและช้า เหงื่อออก ตัวเย็น ตัวเขียว รูม่านตาโตและไม่หดเมื่อถูกแสง หมดสติ และตายในที่สุด

แอสไพริน ถ้ากินขนาดมาก ๆ ทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด (acidosis) จะมีอาการหายใจหอบลึก หน้าแดง ไข้สูง ปวดท้อง อาเจียน มีภาวะขาดน้ำ มีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ ชัก และหมดสติถึงตายได้

พาราเซตามอล ถ้ากินในขนาดมากกว่า 140 มก./กก. จะทำให้ตับถูกทำลายภายใน 24-48 ชั่วโมง เกิดภาวะตับแข็งหรือตับวายเฉียบพลันได้

ไอโอดีน (เช่น ทิงเจอร์ไอโอดีนที่ใช้ใส่แผล) ทำให้ปากคอและหลอดอาหารไหม้และเจ็บ อาเจียนออกมาเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำเงิน กระหายน้ำ ท้องเดิน (อาจถ่ายเป็นเลือด) อ่อนเพลีย วิงเวียน เป็นลม และชัก

ด่างทับทิม ถ้ากินเกล็ดหรือน้ำด่างทับทิมเข้มข้นจะทำให้กัดเนื้อเยื่อในปาก กล่องเสียงบวม ชีพจรเต้นช้าและช็อก

เมนทอลหรือยูคาลิปตัส ทำให้อาเจียน ท้องเดิน หายใจตื้น ปัสสาวะเป็นเลือด ชัก และหมดสติ

กรดบอริก (boric acid) ทำให้มีไข้ขึ้น อาเจียน ท้องเดิน ถ่ายเป็นมูกเลือด หน้าแดง ซึม ชัก ตัวเหลือง ตัวเขียว ไตถูกทำลาย ความดันโลหิตต่ำ หมดสติ ถึงตายได้

ผงซักฟอก อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ถ้ามีส่วนผสมของด่าง ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร

น้ำมันก๊าด เบนซิน ทินเนอร์ ทำให้อาเจียน ปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) วิงเวียน ชีพจรเบาและเต้นไม่สม่ำเสมอ ชัก ถ้าสำลักเข้าไปในปอดอาจทำให้ปอดอักเสบ

อาการเป็นพิษเรื้อรัง จะมีอาการปวดศีรษะ ซึม ตามัว มือเย็นและชา อ่อนเพลีย ความจำเสื่อมใจสั่น ความคิดสับสน ซีด เจ็บในปาก

สารพวกฟีนอล (phenol) เช่น กรดคาร์บอลิก (carbolic acid) เครซอล (cresol มีชื่อการค้า เช่น Lysol) เฮกซาคลอโรฟีน (hexachlorophene) เป็นต้น พวกนี้เป็นกรดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร กระหายน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะออกน้อย กล้ามเนื้อชักเกร็ง ช็อก และการหายใจล้มเหลว

ฟอสฟอรัส (inorganic phosphorus) ซึ่งมีอยู่ในหัวไม้ขีดไฟ ทำให้เจ็บในปากและลำคอ อาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ อ่อนเปลี้ย เพลียแรง ดีซ่าน ปัสสาวะออกน้อย มีจุดแดงขึ้นตามผิวหนังและช็อก

ดีดีที จะทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ปวดตามแขนขา กระสับกระส่าย กล้ามเนื้อกระตุก ชัก และหมดสติ

ยาฆ่าแมลงประเภทออร์แกโนฟอสเฟต (organophosphate) เช่น พาราไทออน (parathion) มาลาไทออน (malathion) คาร์บาเมต (carbamate) เป็นต้น

มักมีอาการภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังกิน ด้วยอาการปวดศีรษะ เหงื่อออก น้ำลายฟูมปาก น้ำตาไหล อาเจียน ท้องเดิน กล้ามเนื้อเต้นกระตุก ชัก หอบ ตาลาย รูม่านตาหดเล็ก และอาจตายภายในเวลารวดเร็ว

พาราควอต (paraquat) ซึ่งมียาปราบวัชพืช ทำให้เกิดอาการชัก ปอดบวมน้ำ ตับวาย ไตวาย หัวใจวาย ภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงหลายวัน ในที่สุดจะมีอาการระบบหายใจล้มเหลว เนื่องจากเกิดเยื่อพังผืดในปอด

ถ้าขนาดเข้มข้น อาจกัดเยื่อบุหลอดอาหาร ทำให้ริมฝีปากและลำคอไหม้พองและเป็นแผล อาจทำให้หลอดอาหารเป็นแผลทะลุ

ผู้ป่วยจะเสียชีวิตจากภาวะช็อกจากหัวใจ (cardiogenic shock) และอวัยวะหลายระบบล้มเหลวภายใน 1-4 วัน

สตริกนิน (strychnine) ซึ่งมักทำเป็นยาเบื่อสุนัข ทำให้เกิดอาการชัก หลังแอ่น หายใจลำบาก น้ำลายฟูมปาก และขาดออกซิเจน

ไซยาไนด์ (cyanides) ซึ่งอาจมีอยู่ในยาเบื่อหนู จะทำให้ตัวเขียว หายใจลำบาก ความดันเลือดตก ถึงตายได้รวดเร็ว

สารปรอท ทำให้มีอาการน้ำลายฟูมปาก กระหายน้ำ ปวดแสบปวดร้อนในปากและลำคอ เยื่อบุในช่องปากบวมและเปลี่ยนสี ปวดท้อง อาเจียน ท้องเดิน ถ่ายเป็นเลือด ไม่มีปัสสาวะออก เเละช็อก

ถ้าเป็นพิษเรื้อรัง จะมีอาการอ่อนเพลีย เดินเซ มือสั่น ซึมเศร้า เป็นตะคริว

สารหนู (arsenic) อาการมักเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังกิน (บางรายอาจนานถึง 12 ชั่วโมง) มีอาการปวดท้อง กลืนลำบาก อาเจียนติด ๆ กัน ท้องเดิน เป็นตะคริว ต่อมาจะรู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรง และช็อก

เมทิลแอลกอฮอล์ (methyl alcohol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ใช้จุดไฟ (เป็นคนละชนิดกับเอทิลแอลกอฮอล์ซึ่งทำเป็นเหล้า เบียร์) เมื่อกินเข้าไปอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง จุกแน่น คลื่นไส้ อาเจียน และตาบอด (เพราะประสาทตาถูกทำลาย) ผู้ป่วยอาจมีอาการตัวเขียว ชัก และหมดสติ

กรดหรือด่างอย่างแรง ทำให้ผิวหนังและเยื่อบุของทางเดินอาหารถูกกัดไหม้และอักเสบ มีอาการเจ็บในปากและลำคอ กระหายน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด กลืนลำบาก หายใจลำบาก ช็อก

บางรายอาจมีการแตกทะลุของหลอดอาหารและกระเพาะ ทำให้กลายเป็นเยื่อบุช่องท้องอักเสบ หรือหลอดอาหารเกิดการตีบตันจากการอักเสบได้

ภาวะแทรกซ้อน

ขึ้นกับชนิดของสารพิษ สารพิษร้ายแรงอาจมีผลต่อระบบประสาทและสมอง (ทำให้ชัก หมดสติ อัมพาต) ระบบเลือด (เลือดออก โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ มะเร็งเม็ดเลือดขาว) ทางเดินหายใจ (ปอดอักเสบ) ตับ (ตับอักเสบ ตับแข็ง) ทางเดินอาหาร (ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน) หรืออื่น ๆ บางชนิดอาจระคายเคือง (กัด) ต่อผิวหนังและเยื่อบุของทางเดินอาหาร เช่น สารที่เป็นกรดหรือด่างอย่างแรง

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ สิ่งตรวจพบ และประวัติการสัมผัสสารพิษ

การรักษาโดยแพทย์

เมื่อผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียน และให้กินผงถ่านกัมมันต์เช่นเดียวกับที่แนะนำไว้ในเรื่องการปฐมพยาบาล (อ่านเพิ่มเติมที่ "การปฐมพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่กินสารพิษ สัตว์พิษ หรือพืชพิษ" ในหัวข้อ การดูแลตนเอง ด้านล่าง)

2. ทำการล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำเกลือนอร์มัลหรือน้ำ ห้ามทำในรายที่หมดสติ ชัก หรือกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด เบนซิน หรือทินเนอร์

3. ให้การรักษาตามอาการ เช่น

    ถ้ามีภาวะขาดน้ำ ช็อกหรือหมดสติ ให้น้ำเกลือ
    ถ้าหายใจลำบากหรือตัวเขียว ให้ออกซิเจนและอาจต้องเจาะคอช่วยหายใจ ในรายที่กินพาราควอต ไม่ควรให้ออกซิเจน นอกเสียจากผู้ป่วยมีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง เพราะออกซิเจนส่งเสริมให้เกิดภาวะเป็นพิษจากพาราควอต
    ถ้ามีภาวะปอดบวมน้ำ (ผู้ป่วยมีอาการหอบและฟังปอดมีเสียงกรอบแกรบ) ให้ฉีดฟูโรซีไมด์ 1-2 หลอด เข้าหลอดเลือดดำ
    ถ้าชัก ฉีดไดอะซีเเพม 5-10 มก. เข้าหลอดเลือดดำ
    ถ้ามีภาวะเลือดเป็นกรด ฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนต
    ถ้ามีภาวะไตวาย อาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis)
    ถ้ามีการติดเชื้อ เช่น ปอดอักเสบ ให้ยาปฏิชีวนะ

4. ให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น

    ถ้าเกิดจากยาฆ่าแมลงประเภทออร์เเกโนฟอสเฟต (ผู้ป่วยจะมีรูม่านตาหดเล็กทั้ง 2 ข้าง) แพทย์จะฉีดอะโทรพีนเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าหลอดเลือดดำทุก 5-10 นาที จนกระทั่งรูม่านตาขยาย และมีอาการคอแห้ง หลังจากนั้นให้ยาต้านพิษ ได้แก่ พราลิดอกไซม์ (pralidoxime) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำช้า ๆ ถ้าอาการหายใจยังไม่ดีขึ้นให้ฉีดซ้ำได้ในอีก 30 นาทีต่อมา (สำหรับผู้ป่วยที่กินคาร์บาเมตไม่จำเป็นต้องให้พราลิดอกไซม์)
    ถ้าเกิดจากสารหนู ให้ยาต้านพิษได้แก่ ไดเมอร์เเคปรอล (dimercaprol) ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
    ถ้าเกิดจากดีดีที นอกจากสวนล้างกระเพาะด้วยน้ำอุ่นแล้ว ควรให้กินยาระบาย ได้แก่ โซเดียมซัลเฟต (sodium sulfate) ขนาด 30 กรัมในน้ำ 200 มล. และให้กินฟีโนบาร์บิทาลเพื่อสงบประสาท
    ถ้าเกิดจากการกินพาราเซตามอลเกินขนาด ให้อะเซทิลซิสเตอีนกินหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

การรักษาขั้นพื้นฐาน (ที่สถานพยาบาล) สำหรับผู้ป่วยที่กินสัตว์หรือพืชพิษ

1. ถ้าผู้ป่วยกินสัตว์หรือพืชพิษมาไม่เกิน 1 ชั่วโมง และยังไม่อาเจียน รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนด้วยการให้ไอพีเเคกน้ำเชื่อมหรือใช้นิ้วล้วงคอ

2. ให้ผู้ป่วยกินผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ขนาด 1 กรัม/กก. โดยผสมน้ำ 1 แก้ว โดยให้ผู้ป่วยดื่มเอง ถ้าอาเจียนหรือดื่มเองไม่ได้ ให้ป้อนผ่านท่อสวนกระเพาะ (stomach tube) ถ้าผู้ป่วยหมดสติ ควรใส่ท่อช่วยหายใจก่อนเพื่อป้องกันการสำลัก

ควรให้เร็วที่สุดเมื่อพบผู้ป่วย (วิธีนี้จะได้ผลมากที่สุดเมื่อให้กินภายใน 30 นาทีหลังกินสัตว์หรือพืชพิษ) ไม่ควรให้ก่อนหรือหลังให้ยาที่ทำให้อาเจียน

ในรายที่รับพิษร้ายเเรง เช่น ปลาปักเป้า แมงดาถ้วย เห็ดพิษร้ายแรง หรือสงสัยรับพิษปริมาณมาก ควรให้ซ้ำทุก 4 ชั่วโมง

3. ทำการล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำเกลือนอร์มัลหรือน้ำ

วิธีนี้จะได้ผลดีเมื่อผู้ป่วยกินสารพิษมาไม่เกิน 1 ชั่วโมง และไม่มีอาการอาเจียน ถ้าทำหลังกินสารพิษมากกว่า 4 ชั่วโมง อาจไม่ได้ประโยชน์และไม่คุ้มกับผลข้างเคียง (ที่สำคัญคือการสำลักเข้าปอดทำให้ปอดอักเสบ)

ควรกระทำโดยบุคลากรที่ชำนาญ และในที่ที่มีความพร้อม

ไม่จำเป็นต้องทำ ถ้าผู้ป่วยมีอาการอาเจียนมาก และห้ามทำในผู้ป่วยชัก ไม่ค่อยรู้ตัว หมดสติ

อาจให้ผงถ่านกัมมันต์กินก่อนล้างกระเพาะ หรือผสมผงถ่านกัมมันต์ในน้ำล้างกระเพาะก็ได้

4. ให้ผู้ป่วยดื่มโซเดียมไบคาร์บอเนต ขนาด 2-5% จำนวน 50 มล.

5. ให้กินยาระบาย ซอร์บิทอล (sorbitol) ขนาด 70% อาจกินเดี่ยว ๆ หรือผสมกับผงถ่านกัมมันต์แทนน้ำก็ได้ ถ้าไม่มีอาจให้ยาระบายอื่น ๆ เช่น ยาระบายแมกนีเซีย (Milk of Magnesia) แทน ให้ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง

ห้ามทำ ในรายที่มีอาการถ่ายท้องมากอยู่แล้ว หรือมีภาวะขาดน้ำที่ยังไม่ได้รับการทดแทน

6. ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ

7. ถ้าชักฉีดไดอะซีเเพม 5-10 มก.เข้าหลอดเลือดดำ

8. ถ้าหยุดหายใจหรือหายใจไม่ได้ ให้ทำการช่วยเหลือด้วยการเป่าปาก หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ

9. ถ้าหมดสติ ให้การรักษาแบบหมดสติ

การดูแลตนเอง

หากสงสัยว่าผู้ป่วยกินสารพิษหรือยาพิษ ควรทำการปฐมพยาบาล แล้วรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที

การปฐมพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่กินสารพิษ สัตว์พิษ หรือพืชพิษ

1. รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียน เพื่อขับพิษออก

    ถ้ามียากระตุ้นอาเจียน ได้แก่ ไอพีแคกน้ำเชื่อม (syrup ipecac) ให้กินครั้งละ 15-30 มล. (เด็กโต 15 มล.) และดื่มน้ำตามไป 1 แก้ว ถ้ายังไม่อาเจียนใน 20 นาที กินซ้ำได้อีก 1 ครั้ง
    ถ้าไม่มียา ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 1 แก้ว แล้วใช้นิ้วล้วงเข้าไปเขี่ยที่ผนังลำคอกระตุ้นให้อาเจียน ถ้าไม่ได้ผลทำซ้ำอีกครั้ง

ควรเก็บเศษอาหารที่อาเจียน ไว้ส่งตรวจวิเคราะห์

วิธีนี้จะได้ผลดี ต้องรีบทำภายใน 1 ชั่วโมงหลังกินสารพิษ และไม่ต้องทำหากผู้ป่วยมีอาการอาเจียนเองอยู่แล้ว

ห้ามทำ ในผู้ป่วยที่ชัก ไม่ค่อยรู้ตัวหรือหมดสติ หรือกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด ทินเนอร์ หรือสารพิษไม่ทราบชนิด

2. ถ้ามีผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ให้กินขนาด 1 กรัม/กก. โดยผสมน้ำ 1/2-1 แก้ว เพื่อลดการดูดซึมสารพิษเข้าร่างกาย (ไม่ต้องทำถ้าผู้ป่วยกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด ทินเนอร์)

ถ้าไม่มีผงถ่านกัมมันต์ ให้กินไข่ดิบ 5-10 ฟอง หรือดื่มนมหรือน้ำ 4-5 แก้ว

3. สำหรับผู้ป่วยที่กินพาราควอต ให้กินสารละลายดินเหนียว (Fuller’s earth) โดยผสมผงดินเหนียว 150 กรัม หรือ 2 1/2 กระป๋อง ในน้ำ 1 ลิตร ถ้าไม่มีให้ดื่มน้ำโคลนดินเหนียวจากท้องร่องในสวน (ที่ไม่มีตะปูหรือเศษแก้ว หรือสารพิษตกค้าง) ซึ่งจะลดพิษของยานี้ได้

4. สำหรับผู้ที่กินปลาปักเป้า แมงดาถ้วย ปลาทะเลพิษ หอยทะเลพิษ เห็ดพิษ ให้ดื่มโซเดียมไบคาร์บอเนตขนาด 2-5% จำนวน 50 มล. (อาจเตรียมโดยผสมผงฟู 1-2.5 กรัม ในน้ำ 50 มล.) ซึ่งจะช่วยลดพิษของอาหารพิษได้

ห้ามทำ ข้อ 2-4 ถ้าผู้ป่วยชัก ไม่ค่อยรู้ตัวหรือหมดสติ

5. ถ้าผู้ป่วยมีภาวะขาดน้ำ ให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ หรือให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ

6. ถ้าผู้ป่วยชักหรือหมดสติ ให้ทำการปฐมพยาบาลเช่นเดียวกับผู้ป่วยชัก (อ่านใน "โรคลมชัก" เพิ่มเติม) หรือหมดสติ (อ่านใน "อาการหมดสติ" เพิ่มเติม)

7. รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล ควรนำสารพิษที่ผู้ป่วยกินหรืออาเจียนออกมาไปให้แพทย์ตรวจวิเคราะห์ด้วย

การป้องกัน

1. ควรป้องกันมิให้เด็กหยิบยาหรือสารเคมีกินเอง โดยเก็บยาและสารเคมีให้มิดชิด หรือไว้ในที่สูงเกินกว่าเด็กจะหยิบถึง

2. ควรป้องกันการหยิบยาผิด หรือกินถูกสารพิษด้วยความเผอเรอ โดย

    เก็บยาไว้ในที่มิดชิด หรือไว้ในตู้ยาที่เด็กหยิบเองไม่ได้
    เขียนฉลากยาให้ชัดเจน
    สารเคมีที่มีพิษควรเก็บไว้เป็นที่เฉพาะ และปิดให้มิดชิด อย่าปะปนกับอาหารที่กิน หรือวางอยู่ในตู้กับข้าว

ข้อแนะนำ

1. ผลการรักษาขึ้นกับชนิดและปริมาณของสารพิษที่ได้รับ สภาพของผู้ป่วยและความรุนแรงของโรค

ถ้าหากได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็มีโอกาสรอดได้

2. ผู้ที่ได้รับสารพิษมักมีอาการแสดงภายใน 36 ชั่วโมง ถ้าหลัง 36 ชั่วโมงไปแล้วยังไม่มีปรากฏอาการก็ถือว่าปลอดภัย

11
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส เสี่ยงทำให้เชื้อโรคเข้าช่องปากได้หรือไม่

การจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยให้การรักษามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทราบผลการรักษาล่วงหน้าได้ ทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของลักษณะฟันได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การจัดฟันแบบจึงได้รับความนิยมมาก เพราะนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันแล้ว การจัดฟันแบบใส ยังช่วยทำให้การใช้ชีวิตประจำง่ายขึ้นด้วย ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ส่งผลให้ฟันของผุ้เข้ารับการรักษาสวยงามได้แม้อยู่ในช่วงของการจัดฟัน พร้อมทั้งยังช่วยทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น


ทั้งตอนรับประทานอาหารและในการทำความสะอาดช่องปากและฟัน นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสยังมีข้อจำกัดที่น้อยกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป เพราะเครื่องมือการจัดฟันที่สามารถถอดออกได้ ทำให้มีความสะดวกสบาย แต่ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามแผนที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ ซึ่งการถอดเข้าออกของเครื่องมือการจัดฟัน หลายคนอาจจะกังวลว่า จะทำให้เราเกิดความเสี่ยงในการนำเชื้อโรคเข้าสู่ช่องปากหรือไม่ วันนี้ทางคลินิก เราจะมาพูดถึงเรื่องของความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าสุ่ช่องปากของเรา โดยมีเครื่องมือการจัดฟันเป็นพาหะ

ซึ่งในการจัดฟันแบบใส เราต้องบอกก่อนว่า ถึงแม้เครื่องมือการจัดฟันจะสามารถถอดออกได้ แต่มีความสะดวกในการทำความสะอาดช่องปากและฟัน แต่ในเรื่องของการทำความสะอาดเครื่องมือการจัดฟันทั้งก่อนและหลังการใช้งาน ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน หลายคนที่เคยสวมใส่รีเทนเนอร์อาจจะเคยสัมผัสกับประสบการณ์ที่ต้องถอดรีเทนเนอร์ออกกอ่นขณะรับประทานอาหารหรือขณะแปรงฟัน


ซึ่งก็มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เราเผลอลืมได้ บางคนใช้วิธีการเก็บรีเทนเนอร์ขณะรับประทานอาหารด้วยการนำกระดาษทิชชู่มาห่อไว้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้มักจะพบได้บ่อยมากในกลุ่มผุ้ที่เข้ารับการจัดฟันและสวมใส่รีเทนเนอร์ ต้องอธิบายก่อนว่า การนำเอาทิชชู่มาห่อรีเทนเนอร์ หรือเครื่องมือการัดฟันแบบใสนั้น เป็นวิธีการที่ผิด เพราะทิชชู่ที่เรานำมาห่ออาจจะมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ไม่สะอาด  ซึ่งเสี่ยงต่อการที่เรานำเอาเชื้อโรคเข้าสู่ช่องปากได้ บางคนอาจจะเผลอลืมจนที่ร้านอาหาร นำเอาไปทิ้งในถังขยะ ซึ่งนั่นเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคชั้นดีเลยทีเดียว

ดังนั้น เราควรที่ดูแลรักษาความสะอาดของเครื่องมือการจัดฟันที่ถูกต้อง ควรมีกล่องที่ใช้สำหรับเก็บเครื่องมือการจัดฟัน เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยของผู้เข้ารับการจัดฟัน ดังนั้น ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของการนำเชื้อโรคเข้าสู้ช่องปาก เพียงแค่เราจะต้องรักษาความสะอาดของเครื่องมือการจัดฟัน รวมไปถึงกล่องหรือที่เก็บเครื่องมือการจัดฟันจะต้องมีความสะอาดด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อให้ลดความเสี่ยงของการสัมผัสเชื้อโรค

หากสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามาถติดต่อขอรับคำแนะนำจากทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและยังได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้ ตามมาตรฐานสากล

12
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ช่วยทำให้ลดปัญหาโรคฟันผุและโรคเหงือกได้ ?

ปัญหาโรคฟันผุถือว่าเป็นปัญหาที่หลายคนักจะพบเจอ ยิ่งเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องป่กและฟันด้วยแล้ว ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ สำหรับโรคฟันผุคือ โรคของฟันที่มีเนื้อฟันถูกทำลายไป โดยมีการทำลายแร่ธาตุที่เป็น องค์ประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อเหล่านี้ จนทำให้เกิดเป็นรูหรือโพรงที่ตัวฟัน ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะลุกลาม ขยายใหญ่และลึกขึ้นเรื่อยๆ เกิดการเจ็บปวดทุกข์ทรมาน และสุดท้ายอาจต้องสูญเสียฟันไปในที่สุด ซึ่งการสูญเสียฟัน


นอกจากนี้ คราบฟัน หรือคราบแบคทีเรีย ซึ่งจะเกาะอยู่บนผิวของฟัน แบคทีเรียจะเปลี่ยนสภาพน้ำตาลและแป้งให้เป็นกรด มีฤทธิ์ทำลายแร่ธาตุที่ผิวฟัน จนก่อให้เกิดเป็นรู โดยเริ่มจากขนาดเล็กมากๆ ลุกลามใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคฟันผุ โดยปกติแล้ว การเกิดโรคฟันผุมักจะพบได้บ่อยในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน โดยมีปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ เช่น การบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต อาการปากแห้ง การใช้ยาบางชนิด และที่สำคัญก็คือ การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งในข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นอกจากจะทำให้เกิดฟันผุแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดโรคเหงือกได้อีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาด เพื่อที่จะได้ลดการเกิดฟันผุได้


อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดของฟันนั้น ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันก็มีปัญหาในเรื่องของการทำความสะอาดฟันด้วยเช่นเดียวกัน เพราะผู้ที่เข้ารับการจัดฟันที่มีเหล็กจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ทำให้ทำความสะอาดฟันได้ยาก และอาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ทั่วถึงด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุและการเกิดโรคเหงือกได้ แต่สำหรับผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น ในเรื่องของการทำความสะอาด แน่นอนว่าผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาฝันโรคได้นั่นเอง


และนอกจากการทำความสะอาดแล้วผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสยังสามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ เพราะขณะรับประทานอาหารผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและเต็มที่มากยิ่งขึ้น แถมไม่ต้องกังวลในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟันด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสจะต้องมีระเบียบวินัยในการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำตามที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้ ถ้าหากผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็จะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติและยังมีรอยยิ้มที่สดใสมั่นใจได้ด้วย

หากใครสนใจเท่ากับการจัดฟันแบบใสก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำ ได้ที่คลินิกของเรา เพราะเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันแบบใสและมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ คลินิกของเรายังให้บริการทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจร มีเครื่องมือทางการทันตกรรมที่ทันสมัย มีความปลอดภัย นอกจากนี้ คลินิกของเราได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign ให้สามารถให้บริการการจัดฟันแบบใสได้อย่างปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีรอยยิ้มที่สดใสมั่นใจและยังทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

13
มอเตอร์ไซด์ใหม่ เดโก้ Deco Susu EV ปี 2024
82,900 บาท

เดโก้ Deco Susu EV ปี 2024
Deco Susu มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 3,000W กำลังแรง เดินทางได้ไกล มาพร้อมกับตระกร้าด้านหน้า เวลาชาร์จ 5 ชม. ความเร็วสูงสุด 90 กม.ชม. ระยะทางสูงสุด 140 กม. (ทดสอบที่ความเร็วเฉลี่ย 35 กม./ชม. ระยะทางที่ได้ขึ้นอยู่กับการบรรทุกน้ำหนักและการขับขี่) ราคา 82,900 บาท

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Deco
   รุ่น                 เดโก้ Deco Susu EV ปี 2024
   ประเภทรถ        Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว        2024
   ราคา              82,900 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์           เกียร์ออโต้
   ระบบเกียร์             เกียร์ออโต้
   รายละเอียดเครื่องยนต์
   ระบบระบายความร้อน
   ระบบสตาร์ท
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)     CC
   แบบเครื่องยนต์
   ระบบจุดระเบิด
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง     ไฟฟ้า
   ระบบจ่ายน้ำมัน
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)      ลิตร
   ระบบกันสะเทือน             ล้อหน้า เทเลสโคปิค, ล้อหลัง โช๊คอัพคู่
   ระบบเบรค                    ล้อหน้า ดิสก์เบรก (), ล้อหลัง ดิสก์เบรก ()
   แบบวงล้อ                     แม็ก
   ขนาดยาง                     ล้อหน้า 120/70-12 58P, ล้อหลัง 120/70-12 58P
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)   1,950 x 750 x 1,290
   น้ำหนักตัวรถ                     145.90 กก.

14
มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ Xiaomi 14 Ultra (16GB/512GB)
40,990 บาท

เสียวหมี่ Xiaomi 14 Ultra (16GB/512GB)
เลนส์ออปติคอล Summilux จาก Leica เลนส์ Telephoto แบบลอยตัว ขนาด 75 มม. และเลนส์ Periscope ขนาด 120 มม.
กล้องหลักขนาด 1 นิ้ว จาก Leica รูรับแสงระหว่าง F1.63 ถึง F4.0
ระบบกล้องสี่ตัวจาก Leica สี่เลนส์ หกความยาวโฟกัส
จอแสดงผล All Around Liquid Display การออกแบบที่เรียบหรู การรับชมที่ดื่มด่ำ
ชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 3 ความเร็วพิเศษและการประหยัดพลังงานสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน*
จอแสดงผล WQHD+ dynamic 1-120Hz AMOLED การตอบสนองที่ราบรื่นเป็นพิเศษพร้อมรายละเอียดที่น่าทึ่ง

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น         เสียวหมี่ Xiaomi 14 Ultra (16GB/512GB)
   ราคากลาง      40,990 บาท
   จำนวนซิม      2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์       จอสัมผัส
   สี                 White, Black

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM: 2/3/5/8)
3G(WCDMA: 1/2/4/5/6/8/19)
4G(LTE FDD: 1/2/3/4/5/7/8/18/19/20/26/28/66* LTE TDD: 38/40/41/42/48)
5G(NR: n1/2/3/5/7/8/20/28/38/40/41/48/66*/77/78/79)

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 161.4 x กว้าง 75.3 x หนา 9.2 มม., น้ำหนัก 219.8 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)  512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด     -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ      ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ              จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด       6.73 นิ้ว, 522 ppi, 1,440 x 3,200 px
   รายละเอียดอื่น
จอแสดงผล All Around Liquid Display
WQHD+ 6.73" AMOLED
3200 x 1440, 522 ppi
LTPO, AdaptiveSync Pro
อัตรารีเฟรช: ไดนามิกตั้งแต่ 1-120Hz
ความไวตอบสนองการสัมผัส: สูงสุด 240Hz
*ความไวตอบสนองการสัมผัสอาจแตกต่างกันออกไปตามเนื้อหาบนหน้าจอ
ประเภทวัสดุ OLED: แผงจอ C8 ที่ปรับโดย Xiaomi
ความสว่าง: HBM 1000 nits (typ), ความสว่างสูงสุด 3000 nits
หน้าจอ Pro HDR รองรับ UltraHDR
Dolby Vision®
HDR10+
6.8 หมื่นล้านสี
ช่วงสี: DCI-P3
หน้าจอ TrueColor
สีสันที่ปรับอัตโนมัติ
สีดั้งเดิมโปร
โหมดอ่านหนังสือปรับอัตโนมัติ
โหมดแสงอาทิตย์
การหรี่ไฟ DC / การหรี่ไฟ PWM 1920Hz
ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)
ได้รับใบรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบจาก TÜV Rheinland
ได้รับใบรับรองความเป็นมิตรกับนาฬิกาชีวภาพจาก TÜV Rheinland
Xiaomi Shield Glass

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                   กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                                 -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            Snapdragon 8 Gen 3
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Qualcomm Adreno GPU
   หน่วยความจำ (RAM)              12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              USB, Bluetooth, NFC, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                   -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต            3G, WiFi, 4G, 5G

15
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


หน้า: [1] 2 3 ... 67





























































กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ